หมวด 26 สารที่ทำปฏิกิริยาว่องไวกับน้ำ
SUBSTANCES-WATER REACTIVE (EVOLVING FLAMMABLE GASES)
อัคคีภัยหรือการระเบิด
- เมื่อสัมผัสกับน้ำจะเกิดสารที่ไวไฟ
- เมื่อสัมผัสกับน้ำหรืออากาศชื้นอาจลุกติดไฟ
- สารบางตัวทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงหรือเกิดการระเบิดได้เมื่อสัมผัสกับน้ำ
- สามารถลุกติดไฟได้เมื่อถูกความร้อน ประกายไฟ หรือเปลวไฟ
- อาจลุกติดไฟได้อีกหลังจากเพลิงดับแล้ว
- สารนี้บางชนิดอาจต้องขนส่งในลักษณะของเหลวที่ไวไฟมาก
- ภาชนะบรรจุอาจระเบิดได้เมื่อได้รับความร้อน
- น้ำชะล้างอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้หรือระเบิด
สุขภาพอนามัย
- การหายใจหรือสัมผัสกับไอระเหยของสารตัวนี้หรือสารที่เกิดจากการสลายตัวอาจเป็นสาเหตุทำให้บาดเจ็บหรือตายได้
- เมื่อสัมผัสกับน้ำจะเกิดก๊าซที่เป็นพิษและหรือสารละลายที่กัดกร่อนได้
- เมื่อสารนี้ไหม้ไฟจะทำให้เกิดก๊าซที่ระคายเคือง กัดกร่อน และหรือเป็นพิษ
- น้ำชะล้างอาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสียได้
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น
อัคคีภัย
- ห้ามใช้น้ำหรือโฟมในการดับเพลิง
- กรณีเพลิงไหม้เล็กน้อย : ใช้ผงเคมีแห้ง โซดาแอซ ปูนขาวหรือทราย
: ถ้าไม่เสียงที่จะได้รับอันตรายให้เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อที่ยังไม่เสียหายออกจากบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ จากบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้
- กรณีเพลิงไหม้รุนแรง : ใช้ทรายแห้ง , ผงเคมีแห้ง, โซดาแอซ หรือปูนขาว หรือให้ออกจาก พื้นที่และปล่อยให้เพลิงไหม้ต่อไป
- เพลิงไหม้ที่เกิดจากแมกนีเซียม : ใช้ทรายแห้ง ผงกราไฟท์ หรือ Met-L-Xr powder
- เพลิงไหม้ที่เกิดจากลิเธียม : ใช้ทรายแห้ง ผงกราไฟท์ หรือ Lith-Xr powder
- กรณีเพลิงไหม้ถังเก็บหรือรถขนส่ง
: ให้ดับเพลิงในระยะไกลที่สุดหรือใช้สายฉีดน้ำชนิดที่ไม่ต้องใช้คนถือ หรือใช้หัวฉีดที่มีระบบควบคุม
: หล่อเย็นภาชนะบรรจุด้วยน้ำปริมาณมากหลังจากไฟดับ แล้วอย่าให้น้ำเข้าไปในภาชนะบรรจุหรือไปสัมผัสกับสารนั้น
: ถ้าได้ยินเสียงจากอุปกรณืนิรภัยระบายไอ หรือภาชนะ บรรจุเปลี่ยนสีให้ออกจากบริเวณนั้นทันที
: ห้ามยืนหัวท้ายของท่อหรือภาชนะบรรจุ
การหกหรือรั่วไหล
- กำจัดแหล่งที่ก่อให้เกิดการลุกไหม้ (การสูบบุหรี่ ประกายไฟ เปลวไฟ)
- ห้ามแตะต้องหรือเดินผ่านไปบนสารที่หก
- หยุดการรั่วไหล ถ้าไม่เสี่ยงที่จะได้รับอันตราย
- ใช้น้ำฉีดฝอยเพื่อลดไอระเหยหรือกั้นกลุ่มไอระเหยไว้
- อย่าให้น้ำโดนสารที่หกหรือเข้าไปในภาชนะที่บรรจุ
- กรณีหกรั่วไหลเล็กน้อย : ให้ใช้ดินแห้ง ทรายแห้ง หรือสารที่ไม่ติดไฟอื่น ๆ คลุมไว้แล้วปิดด้วยแผ่นพลาสติกเพื่อป้องกันการกระจายหรือถูกฝน
- กรณีหกรั่วไหลมาก : การทำความสะอาดหรือกำจัดสารนี้ต้องอยู่ในการควบคุมดูแล ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ
การปฐมพยาบาล
- นำผู้ประสบอันตรายไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ประสบอันตรายหยุดหายใจให้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าผู้ประสบอันตรายหายใจลำบาก ให้ออกซิเจนช่วย
- ถอดเสื้อผ้า รองเท้าที่เปื้อนสารออกทันที กรณีที่สัมผัสกับสารให้ล้างออกถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำที่ไหลผ่านอย่างน้อย 15 นาที
- รักษาร่างกายของผู้ประสบอันตรายให้อบอุ่น และนำส่งแพทย์
- ผู้ปฐมพยาบาลต้องรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสาร และวิธีป้องกันตนเอง
ความปลอดภัยต่อสาธารณะ- ให้กั้นแยกบริเวณที่มีการหกหรือรั่วไหลของสารโดยทันทีอย่างน้อย 50-100 เมตรโดยรอบ ให้อยู่เหนือลมและให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบริเวณนี้
- ให้อยู่ในที่ต่ำ
ชุดป้องกันอันตราย
- ให้สวมเครื่องช่วยหายใจชนิดที่มีถังอัดอากาศและใส่ชุดป้องกันสารเคมี
- ชุดผจญเพลิงทั่วไปใช้ป้องกันได้ในขีดจำกัดเท่านั้น
การอพยพ
- กรณีหกรั่วไหลมาก : ต้องอพยพผู้ที่อยู่ใต้ลมออกไปเป็นอันดับแรก อย่างน้อย 500 เมตร
- กรณีเกิดอัคคีภัย : เมื่อเกิดเพลิงไหม้ภาชนะบรรจุขนาดใหญ่ (รวมทั้งภาชนะขนส่งโดยรถยนต์หรือรถไฟ)ขั้นต้นให้อพยพผู้คนห่างออกไปในระยะ 800 เมตรโดยรอบ