กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.๒๕๓๕


                            อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสองและมาตรา ๔๒ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตรายพ.ศ.๒๕๓๕
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

                            ข้อ ๑ ผู้ผลิตเพื่อการค้าผู้นำเข้าเพื่อการค้าผู้ส่งออกเพื่อการค้าหรือผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปี
ในวันที่แจ้งการผลิต นำเข้า ส่งออก หรือเก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายและต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปี ต่อไปทุกปีไม่เกินวันที่ครบกําหนดรอบปีนับแต่วันดังกล่าว

                            ผู้ผลิตเพื่อการค้าผู้นำเข้าเพื่อการค้าผู้ส่งออกเพื่อการค้าหรือผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ ๓  ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีในวันที่
ได้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือเก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายและต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีต่อไปทุกปีไม่เกินวันที่ครบกำหนดรอบปี นับแต่วันดังกล่าว
                            ในกรณีที่ไม่มีการแจ้งตามวรรคหนึ่งหรือไม่มีการได้รับใบอนุญาตตามวรรคสองให้ถือวันที่เริ่มประกอบกิจการตามความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้เป็นเกณฑ์ ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปี

                            ข้อ ๒ คำขอชำระค่าธรรมเนียมรายปีให้ใช้แบบวอ.๑๐ ท้ายกฎกระทรวงนี้

                            ข้อ ๓ ให้ผู้ผลิตเพื่อการค้า ผู้นำเข้าเพื่อการค้า ผู้ส่งออกเพื่อการค้า หรือผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ หรือชนิดที่ ๓ ยื่นคำขอชำระค่า ธรรมเนียมรายปีต่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการควบคุมวัตถุอันตรายชนิดนั้นๆ

                            ให้ผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายหลายชนิดที่อาจอยูในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานยื่นคำขอชำระค่าธรรมเนียมรายปี
ต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                            หน่วยงานผู้รับผิดชอบตามวรรคหนึ่งและวรรคสองจะมอบอำนาจให้หน่วยงานอื่นที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมรายปีแทนก็ได้

                            ข้อ ๔ ให้กำหนดค่าธรรมเนียมรายปีดังต่อไปนี้

                                (๑)ผู้ผลิตวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการผลิตวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกันตั้งแต่ห้าร้อยกิโลกรัม

หรือห้าร้อยลิตรขึ้นไปแต่ไม่ถึงสิบเมตริกตัน...................................................................................................................ปีละ ๒,๕๐๐ บาท


                                (๒)ผู้ผลิตวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการผลิตวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกัน

ตั้งแต่สิบเมตริกตันขึ้นไป..............................................................................................................................................ปีละ ๕,๐๐๐ บาท


                                (๓)ผู้นำเข้าวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการนำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกันตั้งแต่ห้าร้อยกิโลกรัม

หรือห้าร้อยลิตรขึ้นไปแต่ไม่ถึงสิบเมตริกตัน....................................................................................................................ปีละ ๒,๕๐๐ บาท


                                (๔)ผู้นำเข้าวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการนำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกันตั้งแต่
 สิบเมตริกตันขึ้นไป......................................................................................................................................................ปีละ ๕,๐๐๐ บาท


                                (๕)ผู้ส่งออกวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการส่งออกวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกันตั้งแต่ห้าร้อยกิโลกรัม

หรือห้าร้อยลิตรขึ้นไปแต่ไม่ถึงสิบเมตริกตัน....................................................................................................................ปีละ ๒,๕๐๐ บาท


                                (๖)ผู้ส่งออกวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการส่งออกวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกันตั้งแต่

สิบเมตริกตันขึ้นไป.......................................................................................................................................................ปีละ ๕,๐๐๐ บาท


                                (๗)ผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการเก็บรักษาวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกัน
ตั้งแต่หนึ่งเมตริกตันขึ้นไปแต่ไม่ถึงสิบเมตริกตัน หรือที่ใช้พื้นที่เฉพาะในส่วนของการเก็บรักษาตั้งแต่ห้าสิบตารางเมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง
ห้าร้อยตารางเมตร.......................................................................................................................................................ปีละ ๒,๕๐๐ บาท


                                (๘)ผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการเก็บรักษาวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกัน
ตั้งแต่สิบเมตริกตันขึ้นไปแต่ไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตริกตัน หรือที่ใช้พื้นที่เฉพาะในส่วนของการเก็บรักษาตั้งแต่ห้าร้อยตารางเมตรขึ้นไป
แต่ไม่ถึงหนึ่งพันตารางเมตร.........................................................................................................................................ปีละ ๕,๐๐๐ บาท


                                (๙)ผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายที่มีปริมาณการเก็บรักษาวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ และหรือชนิดที่ ๓ รวมกัน

ตั้งแต่หนึ่งร้อยเมตริกตันขึ้นไปหรือที่ใช้พื้นที่เฉพาะในส่วนของการเก็บรักษาตั้งแต่หนึ่งพันตารางเมตรขึ้นไป........................ปีละ ๑๐,๐๐๐ บาท

                                ข้อ ๕ ผู้ผลิตนำเข้าหรือส่งออกวัตถุอันตรายซึ่งต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีหลายประเภทให้ชำระค่าธรรมเนียมรายปีประเภทที่สูงเพียงอย่างเดียว

                                ข้อ ๖ ให้ผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าปลีกซึ่งวัตถุอันตรายได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี

                                ข้อ ๗ ให้ผู้ขายวัตถุอันตรายได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี

                                ข้อ ๘ ให้ผู้ผลิตเพื่อการค้าผู้นำเข้าเพื่อการค้าผู้ส่งออกเพื่อการค้าหรือผู้เก็บรักษาเพื่อการค้าซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ หรือชนิดที่ ๓ อยู่แล้ว
ในวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุมีพิษได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี จนถึงวันที่ใบอนุญาตตามกฎหมาย
ว่าด้วยวัตถุมีพิษสิ้นอายุ


                                                                                                            ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ตุลาคม  พ.ศ. ๒๕๓๗


                                                                                    
                                   (พลตรีสนั่นขจรประศาสน์)

                                                                                                              รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

                                                            (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฎีกาเล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๕๑ ก ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน๒๕๓๗)


| BACK |